เราเริ่มเดินทางกันตั้งแต่เช้าของวันที่ 27มกราคม 2549 จากกรุงเทพ ก็เดินทางไปเพียง 3 คัน พร้อมทั้งกับอีก1 รถคอนเทนเนอร์ของบลูแอนด์ไวท์ ที่บรรทุกของแจกให้กับเด็กๆไปด้วย จากนั้นก็มีสมาชิกจากจังหวัดใกล้เคียงของเชียงใหม่และเชียงใหม่มาสมทบด้วย เช่นจากจังหวัด ปราจีนบุรี ปทุมฯ และจันทบุรี เนื่องจากเป็นทริปที่ตรงกับตรุษจีน สมาชิกทางกทม.ส่วนใหญ่ไม่ได้ไปด้วย จริงๆแล้วสมาชิกทางกรุงเทพ เช่น ป้าจง อาประสาน ลุงเล็ก ลุงอ๊อด ลุงวิสิทธ์ พี่วิจักร์ น้าหมู น้าเดช พี่ธานินทร์ ลุงวีรชาติ ลุงมานิต ป้าน้อยฯลฯ เคยมาแล้ว ส่วนพี่สุเทพ สุโขทัยนั้นมาตั้งแต่ไก่โห่ คือ มาตั้งแต่ขนของ ขึ้นโครง และส่งมอบเลย
เราก็ใช้เส้นทางเดิมๆ ปุเลงๆไป กลางคืนก็พักที่เชียงใหม่ เช้าแก่ๆก็เดินทางเข้าพื้นที่ เพื่อรอรับผู้สนับสนุนรายการที่ออกค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างให้ (น่าจะออกค่าน้ำมันให้ด้วยนะนี่นะ) ซึ่งมี 2 เจ้าคือ โนเกียและดีลอยท์ ที่มากันเกือบ 100 คน และเมื่อมารวมกับทีมโรงเรียนของหนูแล้ว ก็เกือบ 150 คน
เมื่อมาถึงพื้นที่ก่อสร้างอาคารเรียนก็เริ่มทำงานกัน ทีนี้ขอย้อนไปถึงที่มาที่ไป โรงเรียนบ้านหนองเต่าก่อน
เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2548 ทีมสำรวจได้รับข้อมูลจาก กศน.เชียงดาว ว่ามีโรงเรียนในสังกัดต้องการความช่วยเหลือจากชมรมโรงเรียนของหนูและรายการโรงเรียนของหนูด่วน ทีมสำรวจจึงเดินทางไป นำโดย ลุงเล็ก อาประสาน ป้าจง ลุงนิดป้าน้อยฯลฯ และทีมนายโอม ก็ไปสำรวจ แล้วก็เห็นความต้องการของชาวบ้าน ครูและเด็ก ที่ต้องการความช่วยเหลือ ลุงเล็กในฐานะพี่ใหญ่ในทีมวันนั้นก็เห็นชอบที่จะต้องสร้างอาคารให้ใหม่ เพราะอาคารเก่ามันจะพังแล้ว และที่สำคัญ เด็ก ๆ มีมาก เกือบ100คน เรียนในตอนกลางวัน ผู้ใหญ่เรียนกลางคืน จึงเห็นว่าสมควรรีบดำเนินการณ์
ทีมงานก็กลับมา ป้าแอ๊ะและน้าจินนี่ พี่น้องก็ร่วมสมองกัน ออกหาผู้สนับสนุน ในการสร้างอาคารใหม่ ก็ได้ โนเกียและดีลอยท์ ร่วมกันลงขันสร้างอาคารเรียนใหม่ โดยพี่สุเทพ อาสาขึ้นโครง ตีเคร่าให้ โดยใช้เวลาเกือบ 2 อาทิตย์ จากนั้น ในช่วงปีใหม่ ทีมสร้างก็ขึ้นไปร่วมกันตีฝา มีลุงๆป้าๆอาๆ ไปช่วยกันโดยใช้เวลาช่วงปีใหม่ไปเที่ยวด้วยและสร้างงานด้วย สนุกหนาวกันทั่วหน้า
จากนั้นก็เว้นระยะเวลากันไป จนเมื่อตรุษจีน เราก็มีโอกาสขึ้นไปส่งมอบกันอีก โดยร่วมกันสร้างงานกันกับ 2 หน่วยงานที่ให้การสนับสนุน ซึ่งในงานนี้ก็มีการเพิ่มสีสันในการทำงานของสาวๆทั้งโนเกียและดีลอยซ์ รวมถึงสาวๆชาวบ้านทั้งในพื้นที่ และหมู่บ้านอื่นๆมาสร้างความสุขกันมากมาย อันสืบเนื่องมาจาก ทางโนเกียนำ 2 หนุ่มคือ หนุ่มเต๋า(สมชาย เข็มกลัด)และหนุ่ม อ้น(.สราวุธ มาศทอง) มาร่วมโครงการด้วย มันจึงทำให้เกิดสีสันของการทำงาน 2 วัน 2 คืนมีมากขึ้น
นอกจากการทำงานในช่วงกลางวันแล้ว ก็มีสีสันในช่วงกลางคืนด้วย คือ มีรายการโทรทัศน์ มาร่วมถ่ายทำด้วยว่า โครงการโรงเรียนของหนูทำอะไรกันบ้าง คงจะออกอากาศทาง ITV ช่วงอาทิตย์ที่ 3ของเดือนก.พ.นี่แหละ ตอน 5 ทุ่มครึ่งก็ดูกันละกันถ้ามีเวลา ในช่วงกลางคืนก็มีการละเล่นของชาวบ้านมาเต้นให้ดูด้วย สนุกกันทั่วหน้า
นายเต๋ากับนายอ้นก็สนุกกันเต็มที่ ทั้งทำงาน กิน เล่นกับเด็กๆ ก็ได้บรรยากาศดี ในงานนี้ ก็หนาวกันทั่วหน้าดี กลางคืนเริ่มตั้งแต่ 5โมงเย็น เป็นต้นไปจนถึง 9 โมงเช้า อากาศก็อยู่ที่10-18 องศาตามลำดับสนุกกันมากๆ พี่น้องเป็นจุมโพล่ ทำอาหารให้กิน ก็อร่อยดี มีนักศึกษาที่ชมรมโรงเรียนของหนูส่งให้เรียนมาช่วยด้วย2คน คือเจ้านิคนสวยกับหนุ่มจอสุดหล่อแห่งเทือกเขาแม่ระมาด เด็ก ๆ 2 คนก็สนุกมาก ถามถึงการเรียน นิบอกจบไปอยากทำงานกับ UN เพราะป้าแอ๊ะเล่าให้ฟังว่า UN ต้องการคนที่พูดอังกฤษได้และพูดภาษาไทยได้ ภาษากระเหรี่ยงได้ ตรงประเด็นของนิเลย นิเรียนเอกอังกฤษ เรียนครู แต่ก็อยากเป็นครูที่หมู่บ้าน น้าโอมก็เลยบอกว่า ก็นิทำงาน UN ก็ได้ เมื่อได้เงินเดือนมากๆ ก็จ้างครูมาสอนก่อนก็ได้ พอเก็บเงินได้มากๆก็ปลายทางของชีวิตก็กลับมาสอนหนังสือที่หมู่บ้านก็ได้มันไม่สาย และก็ดีที่มีประสบการณ์มาเล่าให้รุ่นหลังๆฟังได้ด้วย นิก็เลยใจชื้นขึ้นมาบ้าง เพราะกลัวน้าๆป้าๆว่าเอาว่าจบแล้วไม่มาสอนที่หมู่บ้าน ก็อนาคตเด็กมันเราต้องเลือกสิ่งดีๆให้ จริงมะน้าหมู ส่วนเจ้าจอ มุ่งอย่างเดียวเลย จบแล้วจะมาสร้างอาคารเรียนให้โครงการโรงเรียนของหนู เพราะเรียนวิศวะก่อสร้าง ก็ดีที่เด็กมันคิดแทนคุณเนอะ
ในทริปนี้เรามีเพื่อนสมาชิกใหม่จากเชียงใหม่มาด้วย1คู่ หญิงสาวเป็นอดีตแอร์โฮสเตสปัจจุบันเปิดสถาบันพัฒนาบุคคลิกเตรียมตัวเป็นแอร์โฮสเตส ที่เชียงใหม่ ชื่อสาวหลิน ส่วนสามีสุดที่รักชื่อหนุ่มนนท์ ดีไซด์เนอร์ออกแบบตกแต่งภายในอาคารและที่พัก รวมถึงมุมต่างๆในห้างสรรพสินค้า ทั้ง2คนก็มีความสุขและสนุกกับการมาร่วมโครงการมากเลย
สาวหลินกับหนุ่มนนท์ ...ขอบอกว่าน้ำพริกอ่องอร่อยมั่กๆๆๆ เค้าบอกว่าทำเป็นครั้งแรกนะเนี่ย
ในช่วงทำกิจกรรม ทั้งโนเกียและดีลอยซ์ ก็ร่วมงานกันอย่างดี สนุกกันทุกคน ทั้งเหนื่อยและเปรอะ กันทุกคน แต่เมื่อทุกอย่างออกมาเสร็จเรียบร้อย ทุกคนบอกว่าสวยมาก ทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงห้องน้ำสะอาด ถังนำสำรองกว่า 3000 ลิตร เด็กๆมีใช้ตลอดปีแน่ ถึงแม้ว่าน้ำจะต้องจำกัดเวลาใช้ในหมู่บ้าน แต่ที่โรงเรียนมีถังสำรอง เวลาน้ำไหลตอนกลางคืน(ทีละนิด) แต่สะสมไว้ทุกวันๆก็มากเอง เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็กๆและชาวบ้านรวมถึงอุปกรณ์การเรียนการสอน เด็กๆมีใช้ไปกว่า 5 ปีมั๊ง มันแยะมากเลย ดีแล้วแหละ จะได้ไม่ต้องรอจากรัฐนานๆ ผ้าห่มก็เพียงพอทุกบ้าน ทุกคนเลย และยังเหลือเก็บไว้ด้วย เมื่อยามที่ของเด็กๆคนอื่นขาดหรือชำรุด ก็มาเอาที่ครูได้ ยาลุงเล็กก็เอามาเผื่อมากพอที่จะให้เด็กๆทั้งหมู่บ้านมีสุขภาพที่ดีได้ แก้ไข้แก้ปวดกันไป คนเฒ่าก็มีของฝากมาให้เป็นพวกผ้าห่มหนาๆ เสื้อสวยๆ ก็ดีใจกันทุกคนที่ได้
สุดท้ายส่งมอบก็ดีใจกันสนุกกัน ผู้รับมอบก็เป็นท่านหน.กศน.เชียงดาว คุณเรณู มารับมอบเองเลย ทั้งโนเกียและดีลอยท์ ก็ปลื้มกันไป ที่ดีใจไม่แพ้กันคือพวกเราชาวคาราวานชมรมโรงเรียนของหนูนี่แหละเนอะ ที่เป็นอีกคำรบหนึ่งที่เราสามารถร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจกัน ทำให้เกิดความสำเร็จตามอุดมการณ์ทางความคิดของเราสำเร็จอีกครั้งหนึ่งที่มีส่วนร่วม ทำให้เด็กกว่า 100 คนในวันนี้มีความรู้มีโอกาสที่ดีขึ้นทางการศึกษา และอีกหลายร้อยหลายพันในอนาคตมีโอกาสทางการศึกษา สมความตั้งใจของพวกเรา ในการตั้งชมรม คาราวานโรงเรียนของหนูขึ้นมา ถึงวันนี้ เราตั้งชมรมมา 12 ปีแล้วนะ เพราะเราเริ่มมีชมรมในปี2538 ปีนี้ก็12ปี เราน่าจะจัดงานร่วมกันรำลึกกันอีกซักครั้งดีมั๊ยนี่ ขอความเห็นหน่อย ท่านที่ออกความเห็น สามารถส่งความคิดเห็นมาได้ที่ 02-9642250-1 นาทีละ 3 บาทนะครับ หรือส่งมาที่FAX .02-964-2252,02-964-2145 นาทีละ 3 บาทเท่ากัน จบรายงาน
สาวย่ำป่ารายงานสดจากพื้นที่จริง |