ติดต่อเรา "รายการโรงเรียนของหนู" ร่วมสมทบทุน ร่วมสมทบทุนโครงการโรงเรียนของหนูได้ที่... Support Us Learn more about us and |
ตำนานคนย่ำป่า มารู้จักกับคนย่ำป่า... คน ปุถุชนทั่วๆไป แต่ในที่นี้มันกลับแตกต่างกับทั่วๆไปตรงที่ คนๆนี้มีเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย ทั้งเรื่องดีและไม่ดี ณ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ดีๆเกิดขึ้นกับคนๆนี้แทบทั้งหมด ย่ำ เป็นการกระทำที่แตกต่างไปจากความคิดของคนทั่วๆไป ย่ำในที่นี้หมายถึงท่องไปอย่างระมัดระวังและแผ่วเบา ก้าวไปอย่างมีเรื่องราว ไปข้างหน้าอย่างมีจุดหมายเพื่อค้นหาและสำรวจสิ่งต่างๆ ป่า คือสิ่งที่บรรจุเรื่องราวของโลกไว้มากมาย ป่าเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความรู้และลึกลับ มันจึงเสมือนเป็นห้องสมุดที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาให้มนุษย์ได้เดินเข้าไปเพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการ และเผชิญกับสิ่งที่ไม่ต้องการ ป่าเป็นตัวกำหนดชีวิตของมนุษย์เป็นทั้งให้และทำลาย ตรงนี้จะเป็นข้อมูลต่างๆที่ให้ผู้คนได้ทราบว่าเสี้ยวหนึ่งของป่าให้สิ่งใดกับผู้คนในประเทศนี้บ้าง และสิ่งใดทำลายห้องสมุดนี้บ้าง สุดท้ายป่ามีชีวิตจริงหรือไม่ คนย่ำป่า จึงเป็นเรื่องราวของคนๆหนึ่งที่ใช้ชีวิตพัวพันกับป่ามาแทบทั้งชีวิต เรียกได้ว่าพอเดินได้ชีวิตก็พัวพันกับป่าแล้ว มันจึงทำให้อยากที่จะถ่ายทดกสิ่งที่เรียกว่าป่าออกมาให้ผู้คนได้รู้บ้างว่า ตลอด40กว่าปีมานี้เรื่องราวของป่า เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน ตำนานต่างๆเป็นจริงหรือไม่ เรื่องเล่าบางส่วนที่เกี่ยวกับป่ามันมีจริงมากน้อยเท่าใด และสุดท้าย(ที่นึกออก)ตำนานต่างๆที่คนเค้าพูดกันเกี่ยวกับป่ามันมีส่วนเท่าใดที่เป็นจริง หรือเป็นเรื่องเล่าเขย่าขวัญเด็กน้อยเท่านั้น บางคนอาจเข้าป่ามามากกว่าที่กล่าวมา อาจเจอะเจอจิ่งต่างๆมามากกว่า แต่ตรงนี้มิได้ลบหลู่ความคิดหรือประสบการณ์ใดๆของใคร แต่มันเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เจอมาในยุคของความคาบเกี่ยวระหว่างรอยต่อแห่งความคิดเก่าและความคิดใหม่(ผมเกิด2501) ดังนั้นเรื่องราวที่ว่ามามันอาจจะมีการพัฒนาไปตามยุคเพื่อให้ผู้คนได้ค้นคว้า สำหรับผมมันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาแต่สำหรับผู้ที่เชื่อเรื่อง ไสยศาสตร์ จิตและวิญญาณมันอาจจะดูเป็นจริงเป็นจัง แต่ผมพูดได้ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้น มันมิสามารถทำอะไรใครได้ถ้าเรามั่นใจในตัวเราว่า เชื่อหรือไม่เชื่อ มันทำให้กว่า40ปีของผมรอดมาได้ทุกครั้งจนมาถึงวันนี้ มาถ่ายทดดเรื่องราวต่างๆให้ผู้คนยุคแห่งศตวรรษใหม่ได้ทราบ บางครั้งมันอาจเป็นเรื่องตลกแบบน้ำตาไหลเลยทีเดียว ดังนั้นเมื่อจบเรื่องราวในสิ่งที่รู้แล้วมันอาจช่วยได้ในบางครั้ง และอาจช่วยไม่ได้ในบางครั้ง เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า อย่างที่บอก ป่าเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความรู้และลึกลับ ขึ้นอยู่กับผู้คนว่าเมื่อเข้าไปแล้วชีวิต ณ ตรงนั้นจะสัมผัสกับมันอย่างไรและจะแก้ใขอย่างไร ทั้งหมดที่รู้ในนี้มันคือแนวทางของคนๆหนึ่งเท่านั้นที่เจอมาและแก้ใขด้วยตัวเอง ตามวิถีของตนเอง จึงเรียกตัวเองว่าคนย่ำป่า ที่เป็นเช่นนี้เพราะชีวิตที่เกิดมานั้นอยู่กับป่าแต่มิใช่ชาวป่า หากแต่กลับ ชีวิตในวัยเด็กนั้น เติบโตมาท่ามกลางป่าที่ซุกซ่อนอยู่ในเมืองกรุง จะมีสักกี่คนที่รู้ว่ากลางเมืองกรุงในอดีตมันมีป่า มีชีวิตของสรรพสัตว์มากมาย ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ ช้าง เสือ(เสือตัวใหญ่) กระทิง แรด แต่ที่ๆผมอยู่มันกลับมีชีวิตของป่าและสัตว์ต่างๆมากมาย ที่สามารถสร้างเรื่องราวให้เราได้จดจำไว้ เพราะในปัจจุบันนี้ สิ่งที่กล่าวมามันสูญไปแล้ว สูญไปกับความเจริญ มันมิได้สูญไปเพราะการ ฆ่าฟัน แต่มันกลับยังคงดำรงไว้ในความทรงจำของเราและทำให้อยากถ่ายทอดสู่ผู้คนในปัจจุบันได้ทราบเท่านั้นเองว่า ป่ามันมีทุกที่ และป่านี่แหละที่ถูกคนทำลายทุกที่ไป แม้กระทั่งป่าในจิตใจของเราผู้คนก็อาจเข้ามาทำลายได้เช่นกัน นั่นคือป่าในวัยเด็ก แต่เมื่อโตขึ้นมาเรื่องราวของป่าก็ยังคงวนเวียนอยู่กับชีวิตของผม แต่ตรงนี้มันเป็นป่าของคนทั้งประเทศ ที่ผมใช้ชีวิตกว่าครึ่งที่โตมาเข้าไปสัมผัส สัมผัสโดยตรง คือต้องรักษามันไว้ให้ได้(ชีวิตที่มีตอนนั้น) และจากนั้นมันกลับเปลี่ยนแปลงไป มันเปลี่ยนไปเป็น ตรงนั้นเราต้องถ่ายทอดออกมาให้ได้ว่าป่าเป็นเช่นไร มีอะไรที่เป็นการแก้ข้อกังขาของผู้คนได้บ้าง มีอะไรที่ถ่ายทอดไปแล้วเป็นประโยชน์และความรู้ให้กับผู้คนได้บ้าง ในเรื่องของป่าและชีวิตของป่า บางครั้งแทบต้องเอาชีวิตเข้าแลกเลยทีเดียว หลังจากนั้น10ปีเรื่องราวของป่าที่วนเวียนในชีวิตก็เปลี่ยนไป แต่การถ่ายทอดยังคงมีเหมือนเดิม แต่แตกต่างกันตรงที่เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของวิถีชีวิตผู้คนที่อยู่กับป่า ผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้คนในยุคศตวรรษใหม่ ตรงนี้เองที่ทำให้เรื่องราวของป่าในชีวิตเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปจากผจญภัยโลดโผน มาเป็นความรู้สึกและร่วมรับผิดชอบต่อป่าและผู้คนที่อยู่กับป่า ทั้งหมด40กว่าปีของความเปลี่ยนแปลงแห่งป่าในชีวิตมันจึงมีเรื่องราวมากมายที่สามารถนำออกมาเล่าขานกันได้ ถึงแม้ว่ามันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตก็ตาม แม้ว่าในชีวิตที่มีอยู่ในป่าทุกวันของผม มันมีเรื่องราวแทบทุกวัน สุดท้าย เรื่องราวทั้งหมดในนี้ในบางเรื่องเท่านั้นที่จะนำไปถ่ายทอดให้ลูกหลานฟังได้ บางเรื่องอาจนำไปเป็นข้อเปรียบเทียบและสั่งสอนผู้คนได้ แต่บางเรื่องเมื่อทราบแล้วเก็บไว้คนเดียวก็ได้ หรือดัดแปลงบ้างให้เป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังเพื่อความสนุกได้ไม่สงวน แต่บางเรื่องห้ามเด็ดขาด ห้ามทำตาม เพราะมันเป็นความสามารถส่วนตัวเท่านั้น และถ้าทำตาม มันอาจจะไม่เกิดผลอย่างที่เล่ามาก็ได้ ดังนั้นเค้าถึงเรียกผมว่า คนย่ำป่า ไงล่ะครับ โอม-อัครวุฒิ จันทร์ขจร |