ReadyPlanet.com


ติดต่อเรา

"รายการโรงเรียนของหนู"
78/155 หมู่ 8 ถ.ติวานนท์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120

โทรศัพท์: 081-174-2009, 
0-2964-0797

แฟกซ์: 0-2964-0798
อีเมล:
myschoolproject@outlook.com

facebook.com/MySchoolProject





ร่วมสมทบทุน

ร่วมสมทบทุนโครงการโรงเรียนของหนูได้ที่...
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาแจ้งวัฒนะ
บัญชีออมทรัพย์ 
ชื่อบัญชี
“ทุนอาหารกลางวันโรงเรียนของหนู”
เลขที่บัญชี
324-2-38410-3

*กรุณาแฟกซ์ใบสลิปมาให้ทางโครงการฯเพื่อที่ทางโครงการฯจะได้ออกใบขอบคุณให้ท่าน*





Support Us

Learn more about us and
how to be a part of the
movement to provide educational opportunities to
underpriviledge students over Thailand..
View



ผจญภัยกับนายโอม...ตอน เที่ยวไปกินไปกับเมืองในหมอก article

 

 

 

 

หลังจากปีใหม่ผ่านไป ผมเองก็ในระหว่างปีใหม่ก็ตระเวนอยู่ในป่านั่นแหละ เพื่อหาโรงเรียนถ่ายทำสารคดี พอหลังปีใหม่ก็ได้เข้าเมือง ก็ได้รู้เรื่องราวในเมืองมากมายที่ตื่นเต้นกัน เรื่องโรคหวัดนก และการโจรกรรมต่างๆ     ในป่าไม่มีเรื่องที่ผมกล่าวมาเลย มีแต่ความสุขและสงบเงียบ ธรรมชาติ ความหนาว และสายหมอกแห่งป่า ในช่วงที่ตึงเครียด กันทั้งเมืองนั้นผมอยู่ในป่าแถบเชียงราย ไปช่วยชาวบ้านเค้าขุดถนน ทำเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ เป็นเส้นทางป่า เขา ลำธาร หุบเหวและต้นไม้สายหมอก มันเป็นเส้นทางที่ยังไม่มีรอยยาง M/Tยี่ฮ้อใดบดลงไปเลย มันเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง “ดอยผาตั้งภูชี้ฟ้ากับอำเภอเวียงแก่น” จังหวัดเชียงราย  เส้นทางที่ว่านี้ มีความยาวกว่า20กิโล แต่ใน20กิโลนี้ มันเป็นทั้งทางลัดมาอำเภอเวียงแก่น ซึ่งจะเดินทางต่อไปเชียงของและเชียงแสนเลยไปถึงแม่สลองและดอยตุงได้เลย มันเป็นเส้นทางที่สวยมาก ในระหว่างที่ใช้เส้นทางที่ว่า เราจะได้สัมผัสความมันและตื่นเต้นของการใช้รถ4WD และในระหว่างทางอีกนั่นแหละก็จะมีจุดพักรถมีทั้งลำธารและน้ำตกให้ชื่นชม ใครอยากกางเต้นท์นอนระหว่างทางก็ได้ มีทั้งนอนในหมู่บ้านชาวไทยภูเขา หรือนอนในป่าก็ได้ ได้บรรยากาศทั้ง2แบบ เรื่องความปลอดภัย100%เลยและยิ่งเป็นสมาชิกทีมโรงเรียนของหนูยิ่งชัวร์เลยแถม บางทีชาวบ้านเอาข้าวปลามาให้กินอีก  ในเส้นทาง20กิโลที่ว่านี้ ท่านจะผ่านหมู่บ้านหลักๆในเส้นทาง 3

บ้าน มีบ้านห้วยกุ๊ก บ้านหนอง และบ้านห้วยปอ ทั้ง 3 หมู่บ้านนี้มีโรงเรียนที่เรียกว่าศูนย์การศึกษาชุมชนแม่ฟ้าหลวงทั้ง 3 หมู่บ้าน และ 3หมู่บ้านก็มีบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปในเชิงท่องเที่ยว   ถ้าท่านผู้อ่านต้องการที่จะเดินทางไปก็สามารถพักได้ทั้ง 3 หมู่บ้าน แต่อย่าลืมเอาเสื้อผ้า อาหาร สมุดดินสอ   ไปฝากครูและเด็ก ๆ ด้วยละกัน มันเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆที่จะทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างคนเมืองกับคนดอย

 

 

 

 

ผมจะเริ่มเส้นทางเลยละกัน ถ้าท่านเดินทางไปภูชี้ฟ้าแล้วต้องการบรรยากาศท่องเที่ยวต่อแบบชาวบ้านๆ ทางซ้ายติดผา ขวาติดเหว ลำธารและสายหมอกก็สามารถใช้เส้นทางที่ว่านี้ได้เลย โดยเดินทางลงมาจากเส้นทางผาตั้งเวียงแก่น ก่อนเข้าหมู่บ้านม้งใหญ่ริมถนนลาดยางเค้าเรียกว่าหมู่บ้านผาตั้ง  ก่อนถึงบ้านผาตั้งประมาน 500 เมตรจะมีเส้นทางแยกขวามือเป็นทางภูเขา เข้าบ้าน”ห้วยปอ” นั่นแหละเลี้ยวเข้าไปเลยประมาณ 10 กิโล เป็นทางภูเขาที่สวยงามมาก ในระหว่างทางถ้าอยากพักกางเต้นท์กินบรรยากาศก็ได้ แต่พยายามหาแหล่งน้ำหน่อย  แหล่งน้ำจะหานั้นได้จาก ประปาภูเขาของชาวบ้านที่ต่อเข้าไปในไร่ วิธีที่จะได้น้ำประปาภูเขามาใช้ก็ เดินหาข้อต่อท่อน้ำ เมื่อเจอก็ค่อย ๆ ถอดออกเพราะชาวไทยภูเขาต่อท่อน้ำไม่ชอบใช้น้ำยาสมานเนื้อท่อ ก็เลยดึงเข้าดึงออกได้ง่าย แต่ถ้าดึงแล้วใช้น้ำแล้วก็ต่อกลับด้วยละกัน หรือถ้าไม่อยากนอนกลางหุบเขายอดดอยก็เลยเข้าไปในหมู่บ้านนอนที่โรงเรียนก็ได้

 

 

 

 

ที่หมู่บ้านเราจะได้พบกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน เช้า ๆ มีทะเลหมอก ทำให้เราสดชื่น ดื่มด่ำบรรยากาศและฟอกปอดได้ดีมากเลย ชาวบ้านก็เป็นมิตรดีมาก ที่บ้านห้วยปอนี้ไม่ค่อยมีที่ท่องเที่ยวมากนัก นอกจากจะให้ชาวบ้านพาเดินเที่ยวไปในป่าดูนก ดูลิงข้างไปตามเรื่อง แต่อย่าเดินเพลินเข้าล่ะ เพราะจะพลัดหลงเข้าลาวไปเลย

เมื่อเดินทางออกจากบ้านห้วยปอแล้วเราก็ใช้เส้นทางเส้นเดิมต่อไปเลย เส้นทางนี้จะมุ่งสู่บ้านห้วยกุ๊ก ที่บ้านนี้แหละเป็นจุดสำคัญ ที่มีที่ท่องเที่ยวให้ชมมากมายถ้าได้มาแวะเวียน สิ่งแรกเลยที่จะได้สัมผัสในเส้นทางบ้านห้วยปอ-ห้วยกุ๊ก นอกจากซ้ายติดผา ขวาติดเหวแล้ว เรายังสามารถเยี่ยมชมไร่หอมญี่ปุ่นและผักต่าง ๆ ของเมืองหนาว แต่ที่โดดเด่นเห็นจะเป็นไร่หอมญี่ปุ่น ลำต้นขนาด 2 นิ้วโป้งประกบกันเลย เรียกได้ว่าต้นสองต้นผัดน้ำมันหอยใส่หมูนิดหน่อย กินกัน 7 - 8คนสบาย ๆ นอกจากนั้นยังมีผักต่าง ๆ อีกมากให้ลิ้มลอง ทั้งหมดเป็นผักปลอดสารพิษทั้งสิ้น เพราะชาวบ้านเค้ารณรงค์เรื่องนี้กันอยู่ และในปีหน้าและต่อไปอีก 3 - 5ปี ถ้าท่านมาเส้นนี้อาจจะได้ชิมน้ำชารสเยี่ยมจากเทือกเขานี้ก็ได้

 

 

 

 

เมื่อเราใช้เส้นทางนี้มาเรื่อย ๆ ผ่านไร่ต่าง ๆ  หวาดเสียวกับเส้นทางก็จะมีจุดพักก่อนเข้าบ้านห้วยกุ๊กประมาณ 4 -  5 กิโล ก็จะเห็นน้ำตกเล็ก ๆ แต่ถ้าเป็นฤดูฝนละก็ใหญ่แน่ ที่น้ำตกนี้จะมีน้ำทั้งปี ชาวบ้านให้เป็นน้ำเข้าไร่ ใครจะต่อท่อไปไร่ก็มาต่อที่นี่แหละ เราสามารถแวะพักร้อนได้ หรือหลบสายหมอกและลมหนาวทำอาหารเที่ยงกินก็ได้ มุมตรงนี้เหมาะ เพราะถ้าเราออกจากหมู่บ้านแรกที่ค้างคืน(ถ้าค้าง)หรือไม่ค้างลงมาจากผาตั้งแวะหมู่บ้านแรกนิดหน่อย มาถึงน้ำตกที่ว่าก็บ่าย ๆ นะแหละ พอดีเลยอาหารเที่ยง

 

 

 

 

ที่หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านติดชายแดนไทย-ลาว จึงมีที่ท่องเที่ยวมากมาย ที่แรกที่จะพาไปคือ ยอดผาหลังโรงเรียน (โรงเรียนอยู่หน้าเขา) เราปีนป่ายไปเกือบชั่วโมงก็ถึงยอด เล่นเอาหอบเหมือนกัน เมื่อไปถึงก็นั่งพักรอฟ้าเปิดนั่นแหละสวรรค์ของเราเลย ที่สำคัญจุดนี้จะเห็นสนามบินเล็กที่โรงเรียนตั้งอยู่เลย ชาวบ้านผู้เฒ่าเล่าว่า ในอดีตสมัยสงครามอินโดจีนฝรั่งเศสมาจัดตั้งสนามบินตรงนี้และใช้เป็นฐานบินไปลาว  เคยมีคนเก็บรูปถ่ายเครื่องบินที่จอดตรงสนามบินไว้ ตอนนี้กำลังตามอยู่ว่าอยู่ที่ใด พ่อหลวงเล่าว่าเคยเห็นรูป ตอนผู้เฒ่าหนุ่มๆถ่ายกับเครื่องบินที่เป็นปีก 2 ชั้น นักบินถ่ายเก็บไว้ให้ นั่นแสดงว่าตรงนี้เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์เช่นกัน แต่วันนี้ถ้าได้ขึ้นมาจะเห็นความสวยงามของธรรมชาติเป็นกำไรชีวิต 

 

 

 

 

ที่ท่องเที่ยวแห่งที่ 2 ของที่นี่คือถ้ำที่สวยงาม มันเป็นถ้ำที่ไม่ใหญ่มาก แต่ในถ้ำจะมีลำธารน้ำไหลผ่านถ้ำ แล้วออกมานอกถ้ำ ทำให้บริเวณนอกถ้ำเป็นน้ำตกขนาดย่อม  ทำให้เกิดความสวยงาม ทั่วทั้งบริเวณป่าจะเป็นป่าที่สมบูรณ์ ชาวบ้านจะกันไว้เป็นป่าชุมชน มีทั้งนกยูง ลิง เก้งหมูป่า และสัตว์นานาชนิดกฏของหมู่บ้าน "ใครล่าตว์จะถูกไล่ออกจากหมู่บ้านและห้ามกลับเข้ามาอีกเลย"นี่เองจึงทำให้ที่นี่ป่าเป็นป่า และอีกประการบริเวณทั่วทั้งป่าตามหน้าผา จะมีไม้ต้องห้ามที่ชื่อ”จันทน์ผา”ขึ้นนับแสนต้นทั่วป่า  ตามลำธารจะมีปูสิรินธรอาศัยอยู่ด้วย นับว่าเป็นป่าชุมชนที่ทรงคุณค่ามาก ที่ตรงนี้เอง พ่อหลวงผู้นำชุมชนบอกว่"ทุกคนสามารถมาท่องเที่ยวได้ ตั้งแคมป์นอนในป่าริมลำธาร ทำอาหารกินได้ ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้เต็มที่แค่ขอให้ช่วยกันรักษาป่าไว้ละกัน" 

 

 

ออกมาจากบริเวณป่าก็สามารถเดินทางไปที่ชายแดนไทยลาวได้ แต่จะเห็นประเทศลาวเบื้องล่าง เพราะทิวทัศน์ณ จุดนี้จะเป็นเหมือนผาตั้ง แต่เห็นวิวได้มากกว่า ไกลกว่า สวยงามกว่า ที่สำคัญสามารถตั้งแคมป์ท่องเที่ยวได้ มีน้ำท่าถึง ชาวบ้านเค้าจะไปสร้างห้องน้ำ ห้องอาบน้ำไว้ให้ในโอกาสหน้า ถ้ามีคนสนับสนุน ตรงนี้ การท่องเที่ยวน่าจะหันมาสนใจบ้างนะเพราะนี่คือ UNSEEN IN THAILAND อย่างแท้จริง  เราเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่ได้เข้ามาเห็นและพักตรงนี้ที่กล่าวมาทั้งหมด

 

 

จากบ้านห้วยกุ๊ก เราเดินทางออกมาเวียงแก่น ไปเชียงของ เส้นทางนี้จะผ่านหมู่บ้านอีกหมู่บ้าน ชื่อว่าบ้านหนอง ที่นี่ก็จะมีมุมเที่ยวและพักแรมด้วย แต่บรรยากาศจะต่างออกไปจาก 2 บ้าน ที่นี่จะใกล้ชายแดนมากกว่า 2 บ้าน จึงมีมุมมองที่ใกล้กับเพื่อนประเทศอีกอารมณ์หนึ่ง ถ้าไม่พักที่นี่ก็เดินทางต่อได้ เพื่อที่จะไปท่องเที่ยวต่อ  ไปให้ถึงดอยตุงเลย เส้นทางสวยมาก เราเดินทางจากเวียงแก่นมาพักที่เขียงของหนึ่งคืน เที่ยวชมแม่น้ำโขง นมัสการหลวงพ่อพระผุดวัดผาเงา จากนั้นก็เดินทางต่อไปดอยตุงชมพระธาตุดอยตุง ที่นี่เองผมได้พบคำตอบที่ว่าทำไมดอยตุงจึงมีพระธาตุ 2 องค์เล่าให้ฟังนิดหน่อยก็ได้ เรื่องมีอยู่ว่า "พระมหากัสสะปะได้อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุพระรากขวัญเบื้องซ้าย(กระดูกไหปาร้า)มามอบถวายแด่พระเจ้าอชุตราชผู้ครองนคร”นาคพันธ์โยนกชัยบุรี ราชการที่3แห่งราชวงค์สิงหนวติ และได้อัญเชิญมาบรรจุในพระธาตุที่ดอยดินแดง(ดอยตุงในปัจจุบัน)โดยสร้างในราวพ.ศ.1454  และต่อมาอีก 100 ปีก็มีพระอรหันต์ชื่อว่าพระมหาวชิรโพธิเถรได้นำพระบรมสารีริกธาตุมามอบถวายให้พระเจ้ามังรายะนะธิราช แล้วพระองค์พร้อมด้วยพศกนิกรจึงร่วมใจกันเอาพระบรมสารีริกธาตุสร้างบรรจุขึ้นใหม่ข้างองค์เก่าและบูรณะองค์เก่าด้วย จึงทำให้ ณ ที่ดอยตุง มีพระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุถึง 2 องค์สืบมาถึงทุกวันนี้ นี่คือที่มาของพระธาตุ 2 องค์บนดอยตุง

 

จากดอยตุงเราก็เดินทางตัดไปดอยแม่สลอง แวะกินขาหมูหมั่นโถ จิบน้ำชา ซื้อของฝากที่ร้านวังพุดตาลดอยแม่สลอง แล้วนมัสการพระสยามเทวาธิราช ที่จุดชมวิว และก็เดินทางต่อมาจนถึงเชียงใหม่ เส้นทางที่เราเที่ยวต่อ เราใช้เวลาทั้งหมดจาดดอยผาตั้งมาถึงเชียงใหม่  2 คืน 3 วัน มาถึงกรุงเทพฯ อันนี้ไม่นับที่ต้องค้างบ้านห้วยกุ๊ก 2 คืนนะ เพราะสำรวจโรงเรียน แต่ถ้าใครต้องการเดินทางทั้งทริปที่กล่าวมาก็ต้องใช้เวลาประมาณ 5วัน ถึงจะได้ทุกรส และเราจะไปสัมผัสรสชาติชีวิตที่ว่านี้อีกก็ สงกรานต์นั่นแหละ คือสร้างโรงเรียนให้เด็กเสร็จก็เดินทางต่ออย่างที่ว่า แต่ไม่ใช่พักอย่างเคย แต่เที่ยวนี้ผมจะขึ้นไปพักบนยอดเมฆแห่ง "ดอยสันป่าเกี๊ย" ซึ่งที่นี่เป็นดอยเสียบเมฆจริงๆ คือเราจะได้อยู่บนเมฆตลอดเวลาที่พักที่นั่น แล้วจะเล่าให้ฟังว่ามันเป็นอย่างไรเวลาอยู่เหนือเมฆน่ะ.........................

ดอยตุง...บรรยากาศสุดจะบรรยาย

 

ร้านนี้อร่อยทุกจาน....

ร้านวังพุดตาล อร่อยที่สุดแถวนี้....

นี่แหละ! สันป่าเกี๋ยะของพี่โอมเค้าล่ะ




นานาสาระ

ฉก.(เฉพาะกิจ)กลางป่า ตอน กองทัพธรรมของหลวงพ่อวิริยังค์
ลำนำการศึกษา ประสา นายโอม คนย่ำป่า article
ฝึกสมองไบรท์ด้วย 9 เทคนิค article
อาหารตามกรุ๊ปเลือด article
เหตุผลดีๆกับการชะลอความแก่ article
เที่ยวกับขสมก. article
ร้านอาหารอร่อยในเชียงใหม่ article
เรื่องยาที่ทุกคนควรรู้ article
อยากให้รู้..... article
มารู้จักแก๊สโซฮอล์กันเถอะ article
ความรู้เกี่ยวกับไข้มาลาเรีย article
ผจญภัยกับนายโอมตอน “ความจริง…บนยอดดอย” article
เรื่องเล่าจากประสบการณ์...ตอน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ article
เรื่องเล่าจากประสบการณ์ ตอน...สิ่งเร้นลับ article
ตำนานคนย่ำป่า article